วันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ระบบกรองน้ำ

ระบบกรอง เป็นสิ่งที่สำคัญมากในตู้ปลาเพราะช่วยกำจัดของเสียภายในตู้ปลาและยังบำบัดน้ำให้ใสสะอาดมีคุณภาพดีทำให้ตู้ปลาน่ามองอยู่เสมอ ตู้ปลาที่ไร้ระบบกรอง น้ำมีสีเหลืองขุ่นคลั่ก ตะไคร่น้ำสีเขียวคล้ำเกาะทั่วตู้ มองไปที่ไหนก็เจอแต่ขี้ปลา คราบเมือกคราบสกปรกเต็มไปหมด ถ้าเป็นแบบนี้ต่อให้เจ้ามังกรจะสีสวยโดดเด่นแค่ไหนว่ายน้ำสง่างามเพียงใดก็ไม่น่าดู ที่ถูกต้องคือควรจะมีระบบกรองที่ดีเพื่อกรองสิ่งสกปรกภายในให้ดูสะอาดตาเกลี้ยงเกลาน่ามอง ระบบกรองที่นิยมใช้กันอยู่ทั่วไปแบ่งออกเป็น 3 ชนิดคือ กรองในตู้ กรองนอก และการเจาะตู้ลงมากรองด้านล่าง (กรองใต้ตู้)
กรองในตู้ สำหรับกรองในตู้ก็มีหลายแบบ แบบดั้งเดิมก็คือ “กรองใต้พื้นกรวด” ที่ใช้แผ่นกรองที่มีลักษณะคล้าย Jigsaw โดยสามารถต่อกันเป็นแผงกำหนดความสั้นยาวได้ แล้วก็ต่อท่ออ๊อกซิเจนจากนั้นจึงปูหินทับลงไปโดยให้มีความหนาพอดีๆ การใช้กรองใต้กรวดสามารถสร้างความสวยงามให้กับตู้ได้มากทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการจัดวางและเลือกชนิดของหินแต่งตู้ อย่างไรก็ตามระบบกรองชนิดนี้ไม่ค่อยเหมาะสมในการเลี้ยงปลามังกรนักเพราะทำความสะอาดยากแล้วยังกินเนื้อที่ภายในตู้ไม่น้อยอีกด้วย
นอกจากนี้ก็มีกรองที่ใช้เป็น “ลูกตุ้มฟองน้ำ” ซึ่งมีราคาถูกและบำบัดน้ำได้ประสิทธิภาพดี และที่สำคัญยังสามารถกักเก็บแบคทีเรียชนิดดีได้อีกด้วย เจ้าตุ้มฟองน้ำนี้เหมาะสำหรับการใช้งานในตู้เล็กๆ ที่มีการเปลี่ยนถ่ายน้ำเป็นประจำ อีกรูปแบบหนึ่งของกรองฟองน้ำก็คือ “กรอง Power Head” ซึ่งก็คือการใช้ Power Head (เครื่องพ่นน้ำภายในตู้) ติดกับแท่งฟองน้ำด้านล่าง จริงๆ แล้วตัวนี้เริ่มต้นผู้เลี้ยงเป็นผู้ดัดแปลงใช้เอง แต่ตอนหลังผู้ผลิตเล็งเห็นความเข้าท่าใน Idea จึงทำให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มาตราฐาน มีฟองน้ำสำหรับกรองในตัว Power Head ในรุ่นนั้นๆ (ประสิทธิภาพถือว่าดีครับ แต่สกปรกเร็ว และต้องเอาออกมาล้างบ่อยหน่อย)
แต่สำหรับกรองในตู้ที่นิยมกันมากที่สุดก็คงไม่พ้น “กรองข้างตู้” ที่เป็นตู้กรองติดตั้งอยู่ในตู้ปลาเลย ระบบกรองแบบนี้มีจุดเด่นคือสามารถทำประสิทธิภาพได้สูงสุด น้ำไหลเวียนได้เป็นจำนวนมากและตลอดเวลาจึงทำให้กรองได้สะอาดล้ำลึก ยิ่งถ้าเป็นรุ่นใหม่ระบบ 2 ช่องกรองโดยมีซี่กรองล่างและซี่กรองบนก็ยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการกรองน้ำมากขึ้น ระบบกรองชนิดนี้ยังมีเนื้อที่กว้างอีกด้วยจึงทำให้กรองได้นานไม่ต้องเปลี่ยนล้างบ่อยๆ แต่ก็เพราะเป็นระบบกรองในตู้จึงมีข้อเสียที่หลีกเลี่ยงไม่ได้นั่นก็คือ ตู้กรองนั้นกินเนื้อที่ภายในตู้ค่อนข้างมากทำให้ปลามีเนื้อที่ว่ายน้ำน้อยลง และอีกอย่างก็คือ การล้างทำความสะอาดค่อนข้างยุ่งยาก ต้องรื้อเอาวัสดุกรองออกมาล้างเป็นชิ้นๆ


กรองนอกตู้ ระบบกรองชนิดต่อมาก็คือ กรองนอก” ระบบกรองชนิดนี้ก็เป็นอีกระบบที่มีประสิทธิภาพสูง การทำงานของกรองนอกก็คือจะดูดน้ำจากตู้ปลาลงมาผ่านเครื่องกรองด้านล่างซึ่งภายในมีชั้นของวัสดุกรองต่างๆ หลายชั้น จากนั้นก็จะส่งน้ำดีกลับขึ้นไปสู่ตู้ นอกจากจะมีประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมแล้ว กรองนอก” ยังมีข้อดีอีกอย่างคือไม่กินพื้นที่ภายในตู้จึงทำให้ปลามีเนื้อที่ว่ายเต็มที่ นอกจากนี้ยังมีรูปลักษณ์ที่สวยหรูดูมีสไตล์ที่สำคัญคือสามารถถอดออกมาล้างได้ง่ายด้วยโดยที่ไม่รบกวนปลาในตู้ ส่วนข้อเสียก็มีเหมือนกันนั่นก็คือราคาค่อนข้างสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าคุณภาพสูงยี่ห้อจากต่างประเทศที่บางตัวมีราคาแพงกว่าตู้ปลาอีก แบบว่ากันที่ตัวนึงหลายๆ พันบาทหรืออาจขึ้นถึงหลักหมื่น แต่ถ้าเป็นระดับกลางจากไต้หวันหรือจีเช่นยี่ห้อ Azoo, Resun, Jun, Via Aqua, Jebo ราคาก็ย่อมลงมาหน่อย… เปรียบเทียบคุณสมบัติที่เหมาะสม ราคา และรูปลักษณ์ที่ถูกใจก่อนตัดสินใจซื้อนะครับ


กรองใต้ตู้ ระบบกรองแบบสุดท้ายที่จะพูดถึงก็คือการเจาะตู้ลงมากรองด้านล่าง การทำงานของระบบกรองแบบนี้ก็จะคล้ายๆ กับกรองนอกแต่ต่างกันตรงที่กรองนอกจะเป็นระบบดูดน้ำลงมาผ่านเครื่องกรอง แต่การเจาะตู้นี่จะเป็นระบบน้ำไหลผ่านท่อน้ำภายในตู้ลงมากรองด้านล่าง (ซึ่งโดยมากจะเป็นตู้กระจกขนาดใหญ่และทำเป็นช่องหลายชั้นเพื่อใช้งานกรองโดยเฉพาะ) แล้วพ่นน้ำส่งกลับขึ้นไปด้านบน ระบบกรองแบบเจาะตู้นี่ส่วนใหญ่ใช้กับตู้ที่มีขนาดใหญ่เกิน 60” หรือถ้าเล็กกว่าก็จะใช้กับตู้เฟอร์นิเจอร์สุดหรูอลังการ (นักเลี้ยงปลาที่ญี่ปุ่นนิยมกันมาก) ค่าใช้จ่ายสำหรับการกรองแบบนี้ก็เรียกได้ว่าไม่สูงเกินไป แถมยังไม่ต้องเปลี่ยนน้ำได้อีกยาวนานเลยโดยการกรองแบบนี้ก็เหมือนกับกรองข้างตู้อันใหญ่ๆ แหละครับ 


การเลือกใช้วัสดุกรอง ก็เป็นอีกปัจจัยที่สำคัญมาก หากเลือกได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมนอกจากจะทำให้น้ำใสสะอาดแล้ว ยังช่วยเพาะพันธุ์และกักเก็บแบคทีเรียชนิดดีเพื่อทำหน้าที่ย่อยสลายของเสีย และบำบัดน้ำในตู้ให้มีคุณภาพดียาวนานอีกด้วย สำหรับวัสดุกรองที่เหมาะสมและปลอดภัยที่สุดปลามังกรก็คือ Ceramic Ring กับ Substrate ครับ โดย Ceramic Ring จะเป็นตัวชะลอน้ำทำให้น้ำไหลช้าลงแล้วยังกระจายน้ำทำให้เพิ่มปริมาณออกซิเจนด้วย แต่หน้าที่หลักจริงๆ คือเป็นที่กักเก็บของเสียขนาดใหญ่เพื่อเป็นอาหารของแบคทีเรียชนิดดี (เป็นแหล่งเพาะแบคทีเรีย) ส่วน Substrate ซึ่งเป็นหินตะกอนภูเขาไฟ จะทำหน้าที่เป็นตัวกรองของเสีย ดูดซับสารพิษ และรูพรุนจำนวนมากมายของ Substrate ยังเป็นที่อยู่ของแบคทีเรียชนิดดีอีกด้วย
การจัดวางชั้นกรองอย่างมีประสิทธิภาพคือน้ำต้องไหลผ่าน Ceramic Ring ก่อนผ่านสู่ Substrate นะครับโดยที่ Substrate จะต้องจมน้ำ (Wet System) ส่วน Ceramic Ring จะอยู่เหนือให้น้ำไหลผ่านหรือจะจมก็ได้ จากการที่ได้ดูหนังสือจากเมืองนอกมาหลายเล่มก็ได้สังเกตเห็นว่านักเลี้ยงปลามังกรต่างประเทศส่วนใหญ่เลือกใช้ Ceramic Ring ล้วนๆ เป็นวัสดุกรองเพียงอย่างเดียว แต่ก็มีบ้างที่ใช้ Substrate ด้วย บางบ้านก็ทำตู้ต่างหากไว้ใส่ Bio Ball อย่างเดียว การใช้ Bio Ball มีผลดีคือช่วยเพิ่มออกซิเจนในน้ำซึ่งจะทำให้เจ้ามังกรคุณหายใจสบายขึ้น
แต่เพราะปัญหาหนึ่งที่นักเลี้ยงบ้านเราไม่นิยมใช้ Ceramic Ring และ Substrate นั่นก็เพราะเจ้าวัสดุทั้ง 2 ชนิดนี้มีราคาแพงมาก ยิ่งถ้าเป็นของแท้ที่มีคุณภาพอย่างเช่นยี่ห้อ Eheim หรือ Azoo ขายกันลิตรนึงก็หลายร้อยบาท ถ้าเป็นตู้เล็กๆ ยังพอสู้ไหว แต่ถ้าต้องเอาไปใช้กับระบบกรองใต้ตู้ในตู้ใหญ่ๆ ใช้ล่ะก็… ทั้งอ่วมทั้งน่วมแน่ๆ (ค่าวัสดุกรองแพงกว่าตัวปลาแน่นอน) ถ้าไม่ซีเรียสก็เลือกใช้เกรดที่รองลงมาก็ได้ แม้จะประหยัดลงได้มากแต่ราคาก็ยังเรียกได้ว่าสูงอยู่ดี
ในกรณีที่มีกำลังทรัพย์จำกัด ผมว่าแค่ Bio Ball และเศษปะการังอย่างเดียวก็เพียงพอแล้ว (อย่าลืมนะครับ ไม่ว่าจะเป็นระบบกรองแบบไหนก็ต้องมีใยแก้วเพื่อกรองของเสียหลักเป็นชั้นแรกด้วย) สำหรับถ่านคาร์บอนผมไม่ขอแนะนำให้ใช้กับระบบกรองในตู้ปลามังกร เพราะถ่านคาร์บอนแม้จะมีหน้าที่ในการดูดซับสารพิษหรือของเสียได้เป็นอย่างดี แต่ก็มีอายุในการใช้งานสั้น หากไม่มีเปลี่ยนล้างอย่างสม่ำเสมอเมื่อถึงจุดคาร์บอนจะคายของเสียนั้นออกมาแล้วจะกัดเมือกปลาที่เคลือบตัวอยู่ ซึ่งมีผลทำให้ตัวด่าง สีซีด และครีบเครื่องต่างๆ เปื่อยได้ นอกจากนี้ยังอาจทำให้เกิดปัญหาที่เกี่ยวกับเหงือกได้อีกด้วย ส่วนเศษปะการัง จริงๆ แล้วก็ไม่ค่อยเหมาะกับปลามังกรนักเพราะมีค่าเป็นด่างสูงซึ่งปลามังกรไม่ค่อยชอบ แต่ถ้าใครเชื่อใจในประสิทธิภาพของปะการังแล้วยังคิดจะใช้ผมก็ไม่ห้าม แต่มีข้อแนะนำหน่อยคือให้ล้างปะการังใหม่ให้สะอาดจนหมดกลิ่นเค็มจากนั้นก็แช่ไว้ในน้ำเปล่าซัก เดือน หรือถ้าจะให้เร็วกว่านั้นก็ต้องใช้ ด่างทับทิม” เข้าช่วยในการทำการ กัดแหลก” แต่ถ้าใช้วิธีหลังแล้วสีของปะการังจะเปลี่ยนไปเป็นสีน้ำตาลไม่สวย แต่ก็คงไม่เป็นไรเพราะเราเอามาใช้งานนี่นะ !
NOTE : หากคิดจะใช้ปะการังเป็นวัสดุกรองการเลือกซื้อเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ประการังขนาดที่ใช้สำหรับระบบกรองไม่ควรใหญ่หรือเล็กเกินไป ผมแนะนำให้ใช้ขนาดเบอร์ ถึงเบอร์ ก็พอ (ประมาณ 2 ข้อนิ้วก้อย) และดูสีของประกรรังให้ดีให้มีสีขาวอมน้ำตาลหน่อย ควรชื้นและมีกลิ่นเค็มจากทะเล ผมไม่แนะนำให้ซื้อปะการรังที่แห้งและมีสีขาวสะอาดเกินไปเพราะปะการังชนิดนั้นได้ผ่านการฟอกสีแล้ว (ส่วนใหญ่ใช้สำหรับจัดแต่งตู้ซึ่งไม่เหมาะกับระบบกรอง) ซึ่งอาจมีสารฟอกสีตกค้างอยู่ และหากล้างไม่สะอาดก็จะเป็นอันตรายกับปลาซึ่งอาจถึงชีวิตได้


นอกจากจะมีระบบกรองน้ำในตู้ปลาแล้วยังมีระบบกรองย่อยอีกชนิดที่ค่อนข้างสำคัญสำหรับกับการเลี้ยงปลาชนิดนี้นั่นก็คือ เครื่องกรองผิวน้ำ” หรือที่เรียกว่า Skimmer โดยที่อุปกรณ์ตัวนี้มีหน้าที่ในดูดเก็บของเสียต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นละออง เปลือกหนอน ปีกแมลง ฝ้า คราบน้ำมัน รวมถึงสารแขวนลอยต่างๆ ที่อยู่เหนือผิวน้ำทำให้ผิวน้ำสะอาดไร้คราบของเสียที่ไม่น่ามอง Skimmer มีหลายยี่ห้อ หลายชนิด หลายราคาเริ่มตั้งแต่หลักร้อยไปจนหลักพัน (สำหรับปลาทะเลราคาจะสูงหน่อย) สำหรับรุ่นที่มีราคาไม่แพงส่วนใหญ่จะใช้คู่กับ Power Head การใช้งานคือจะเสียบท่อ Skimmer กับ ท่อดูด” ของ Power Head ที่อยู่ด้านล่างจากนั้นก็ต่อท่อสายยางไปลงช่องกรอง การเปิดใช้ Skimmer ไม่จำเป็นต้องเปิดตลอดเวลา การใช้งานที่เหมาะสมก็คือเปิดใช้วันละครั้งๆ ละ 1-2 ชม. ก็พอ และจะเป็นช่วงเวลาใดก็ได้ การมีระบบกรองที่สมบูรณ์มีประสิทธิภาพนอกจากจะทำให้น้ำในตู้ใสสะอาดและปลามีสุขภาพดีแล้ว ยังทำให้บรรยากาศในตู้ดูดีน่ามองนานๆ อีกด้วย



วันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ฝึกหัดบทที่3

1. ข้อใดเป็นความหมายที่ถูกต้องที่สุดของการรู้สารสนเทศ
ตอบ ง.ความสามารถของบุคคลในการเข้าถึง ประเมิน และใช้งานสารสนเทศ

2. จากกระบวนการของการรู้สารสนเทศ ทั้ง 5 ประการ ประการไหนสำคัญที่สุด
ตอบ ก. ความสามารถในการตระหนักว่าเมื่อใดจึงจะต้องการสารสนเทศ

3. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของผู้รู้สารสนเทศ
ตอบ ง. ชอบใช้คอมพิวเตอร์ในการเล่นเกม

4. ข้อใดไม่ใช่ความสำคัญของการรู้สารสนเทศ
ตอบ ก. โลกมีการเปลี่ยนแปลงเร็วมาก โดยเน้นวัตถุนิยมมากขึ้น

5. ข้อใดเป็นการเรียงลำดับขั้นตอนกระบวนการเรียนรู้สารสนเทศที่ถูกต้อง
    1. ความสามารถในการประมาลสารสนเทศ
    2. ความสามารถในการประเมินสารสนเทศ
    3. ความสามารถในการใช้และการสื่อสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ
    4. ความสามารถในการค้นหาสารสนเทศ
    5. ความสามารถในการตระหนักว่าเมื่อใดจึงจะต้องการสารสนเทศ
ตอบ ค. 5-4-1-2-3

การดูแลตู้ปลา

เมื่อปลาอยู่ในตู้ได้ซักพักความสกปรกก็เริ่มถามหา น้ำเริ่มขุ่น มีเศษของเสียลอยไปมาบริเวณผิวน้ำและภายในตู้ คราบขาวละมุนหรือตะไคร่เขียวขึ้นงามดุจมรกตเกาะตามตู้ ด้วยสิ่งเหล่านี้ลำพังเพียงการเปลี่ยนน้ำอย่างเดียวคงไม่เพียงพอที่จะทำให้ตู้ปลาสวยงามเหมือนเดิมได้เพราะปัญหาคราบต่างๆ ที่ยังเกาะแน่นค้างตู้ก็ยังไม่ได้ถูกกำจัดไป สำหรับคราบสกปรกที่ว่านี้ใหม่ๆ จะยังไม่มีครับ แต่จะเริ่มมีก็ราวๆ เดือนหลังจากนั้น วิธีแก้ไขแบบเก่าๆ ก็คือการขัดถูทำความสะอาดตู้โดยใช้ฟองน้ำหรือไม่ก็แปรงชนิดต่างๆ เข้าช่วย แต่ข้อเสียของการใช้อุปกรณ์ที่ว่าอาจสร้างความสกปรกมากขึ้นภายในตู้ปลา น้ำขุ่นคลั่ก และนอกจากนี้ยังทำความรำคาญให้ตัวปลาด้วย ยิ่งไปกว่านั้นเศษฝุ่น เศษละอองและคราบสกปรกต่างๆ ที่กระจายในตู้อาจมีโอกาสเล็ดลอดเข้าไปตามเหงือก ปาก และตาทำให้เกิดโรคต่างๆ ตามมาอย่างเช่น โรคตาขุ่นและโรคเหงือกได้

การถูตามพื้น

 

ทางเลือกใหม่ที่สามารถช่วยลดปัญหานี้ได้ก็คือการใช้ แปรงแม่เหล็ก” ขัดกระจกเข้าช่วย แม้เจ้าแปรงตัวนี้จะมีราคาค่อนข้างสูงอันนึงหลายร้อยบาทแต่การลงทุนครั้งนี้เพียงครั้งเดียวสามารถช่วยแบ่งเบาภาระของเราได้มาก ปัญหาที่มีเพียงอย่างเดียวของอุปกรณ์ชนิดนี้ก็คือทำความสะอาดได้ไม่ทั่วถึง ขัดได้เฉพาะเพียงด้านหน้าและด้านข้างของตู้เท่านั้น ส่วนพื้นตู้และด้านหลังไม่สามารถขัดได้ (เฉพาะในกรณีที่วางตู้ชิดกำแพง แต่ถ้าหากวางกลางบ้านจะขัดหลังตู้ได้ครับ) ในส่วนที่ไม่สามารถขัดได้อย่างพื้นตู้และหลังตู้ ผมแนะนำให้ใช้ด้ามฟองน้ำเช็ดกระจก หากด้ามยาวไม่พอให้ต่อท่อ PVC เสริมเพื่อจะได้จับเช็ดถูได้มั่นคงมากขึ้น เวลาใช้งานก็ค่อยๆ เช็ดนะครับไม่ต้องรีบ เศษฝุ่นและคราบสกปรกจะได้ไม่กระจายมาก
สำหรับแปรงขัดตู้มีข้อเสียอย่างหนึ่งคือหากหลุดแปรงจะจมน้ำ ยิ่งถ้าหากตู้ที่ใช้อยู่เป็นตู้ลึกนี่เรื่องใหญ่น่าดูต้องลำบากไม่น้อยกว่าจะเก็บขึ้นมาได้ แต่ว่าตอนนี้ในท้องตลาดก็มีแปรงขัดกระจกรุ่นใหม่เข้ามาซึ่งเป็นรุ่นที่มีการปรับปรุงแล้วนั่นก็คือสามารถลอยน้ำได้ คือถ้าขัดๆ อยู่แล้วเผลอทำหลุดเจ้าแปรงนี้จะไม่จมน้ำแต่จะลอยขึ้นมาซึ่งทำให้การกลับมาติดเหมือนเดิมง่ายมากๆ

การขัดกระจก

 


เมื่อถูตู้เช็ดกระจกแล้ว มันก็จะมีเศษตะกอนหรือขี้ปลา เราก็จะทำงานเอามันออกโดยวิธีการ เอาสายยางมาดูดออก แต่เราจะไม่เอาน้ำเดิมออกไปด้วย เราต้องการน้ำเดิมเพื่อให้ปลาคุนกับน้ำเดิม เราจะไม่เปลี่ยนน้ำ ถ้าเป็นน้ำจะต้องพักน้ำทิ้งไว้นานพอสมควร เพื่อให้ปลาชินกับน้ำ ถ้าไม่พักน้ำปลาอาจจะน็อคน้ำก็ได้ เราก็หาอะไรมากรองเราแต่ตะกอนหรือขี้ปลาออก 

การดูดตะกอนหรือขี้ปลา


กรองตะกอนหรือขี้ปลา

 

เมื่อเราทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็จะได้ตู้ปลาที่สะอาด น่าดูปลา ตู้ปลาใหญ่แบบนี้ นานๆจะทำความสะอาดทีนึง เดือนละครั้งหรือ 2 เดือนครั้งก็ได้ เพื่งคงความสะอาดตู้ปลาไว้ให้สวยงามน่าดู






ฝึกหัดบทที่1

1. ข้อมูลหมายถึง ข่าวสารข้อเท็จจริงต่างๆ
2. ข้อมูลปฐมภูมิคือ สารสนเทศที่ได้มาจากต้นแหล่งโดยตรง
    ยกตัวอย่าง วารสาร รายงานการวิจัย
3. ข้อมูลทุติยภูมคือ มีการเก็บรวบรวม เรียบเรียงไว้แล้ว
    ยกตัวเอย่าง หนังสือ ตำรา
4. สารสนเทศหมายถึง ข้อมูล ข่าวสาร ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
5. จงอธิบายประเภทของสารสนเทศ ได้มีการจำแนกออกเป็น 2 ตามแหล่งสารสนเทศและตามสื่อที่จัดเก็บ 1) สารสนเทศจำแนกตามแหล่งสารสนเทศ เป็นการจำแนกสารสนเทศตามการรวบรวมหรือจัดกระทำกับสารสนเทศ 2) สารสนเทศจำแนกตามสื่อที่จัดเก็บ เป็นการจำแนกสารสนเทศตามชนิดของสื่อที่ใช้ในการบันทึกข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ ได้แก่ กระดาษ สื่ออิเล็กทรอนิกส์
6. ข้อเท็จจริงของสิ่งต่างๆที่อาจเป็นตัวเลขข้อความรูปภาพเสียงคือ เป็นข้อมูล
7. ข้อมูลที่ผ่านการประมวลผลคือ สารสนเทศ
8. ส่วนสูงของเพื่อนที่ถามจากเพื่อนแต่ละคน เป็นข้อมูล
9. ผลการลงทะเบียนเป็น เป็นข้อมูล
10. กราฟแสดงจำนวนนิสิตในห้องเรียนวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน section วันอังคาร เป็นสารสนเทศ

วันอังคารที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ฝึกหัดบทที่4

แบบฝึกหัดบทที่ 4
1.ให้นิสิตยกตัวอย่างอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศตามหัวข้อต่อไปนี้ อย่างน้อยหัวข้อละ 3 ชนิด
1) การบันทึกและจัดเก็บข้อมูล
                - เก็บข้อมูล URL ของเว็บไซต์
                - ฮาร์ดดิสก์
                - CD DVD
2) การแสดงผล
                - จอภาพ LCT และ CRT
                - โปรเจคเตอร์
                - คอมพิวเตอร์
3) การสื่อสารและเครือข่าย
                - โทรสาร
                - ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์
                - วิทายุ
2.ให้นิสิตนำตัวเลขในช่องขวา มาเติมหน้าข้อความในช่องซ้ายที่มีความที่สัมพันธ์กัน
  8     ซอฟต์แวร์ประยุกต์
1.ส่วนใหญ่ใช้ทำหน้าที่คำนวณ ประมวลผลข้อมูล
     Information Technology
2.e-Revenue
  7     คอมพิวเตอร์ในยุคประมวลผลข้อมูล
3.เทคโนโลยีต่างๆ ที่นำมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินการเกี่ยวกับสารสนเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความถูกต้องแม่นยำ และความรวดเร็วต่อการนำไปใช้
 4      เทคโนโลยีสารสนเทศ ประกอบไปด้วย
4.มีองค์ประกอบพื้นฐาน 3 ส่วน ได้แก่ Sender Medium และ Decoder
6     ช่วยเพิ่มผลผลิต เพิ่มต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
5.การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการรับ-ส่งเอกสารจากหน่วยงานหนึ่งไปยังอีกหน่วยงานหนึ่งโดยส่งผ่านเครือข่าย
 3     ซอฟต์แวร์ระบบ
6.เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีการสื่อสารโทรคมนาคมและเทคโนโลยีอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
9         การนำเสนอบทเรียนในรูปมัลติมีเดียที่ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ตามระดับความสามารถ
7.โปรแกรมที่ทำหน้าที่ใช้ควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ภายในระบบคอมพิวเตอร์
 5     EDI
8.โปรแกรมระบบห้องสมุดอัตโนมัติ จัดเป็นซอฟต์แวร์ประเภท
 10    การสื่อสารโทรคมนาคม
9.CAI
  2    บริการชำระภาษีออนไลน์
10.ลักษณะสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ


AROWANA1,

การเลี้ยงดูปลามังกร


 


1. การเตรียมตู้ การเลี้ยงปลามังกรนั้นผู้เลี้ยงต้องคำนึงถึงเรื่องตู้เป็นอันดับแรก มาตรฐานขั้นต่ำที่ใช้เลี้ยงนั้นคือ 60*24*24 นิ้ว หรือ ประมาณ 150*60*60 ซม. จะสามารถเลี้ยงจากขนาดเล็กที่มีขายตามร้านค้าทั่วไปจนถึง ขนาด 24 นิ้ว จะสามารถทำให้ท่านเลี้ยงได้ประมาณ 4-5 ปี แล้วจึงค่อยขยับขยาย” แต่หากท่านที่มีเนื้อที่ 
ค่อนข้างจำกัดจริงๆก็สามารถเลี้ยงได้ตลอดไป แต่กระจกที่ใช้ควรจะหนาประมาณ หุน ขึ้นไป และ ในกรณีที่พอมีเนื้อที่ในด้านกว้างที่พอจะเพิ่มได้ควรจะกว้างอย่างน้อย 30 นิ้ว หรือ 75 ซม. สูง 36 นิ้ว แต่จะให้ดีก็ กว้าง 36 นิ้ว หรือ 90 ซม. สูง 36 นิ้ว ไปเลยก็จะดี ปลาขนาดใหญ่จะได้ไม่เครียด”( ที่สำคัญอย่าลืมเผื่อกันกระโดดด้วย ประมาณ 4-6 นิ้ว แล้วแต่ขนาดของปลา ) ที่ผมแนะนำอย่างนี้ก็เพื่อผู้เลี้ยงจะไม่ต้องเปลืองสตางค์ซื้อตู้บ่อยๆ แล้วตู้ที่ไม่ได้ใช้เกะกะเต็มบ้านจนต้องยอมขายถูกๆหรือไม่ก็ยกให้ใครไปฟรีๆ แต่ปัญหาที่พบบ่อยปลาเล็กในตู้ขนาดใหญ่ คือ ตื่นกลัว ทำให้การว่ายไม่สง่า ครีบลู่ วิธีแก้คือ หาแท้งค์เมท มาเพิ่มสัก 2-5 ตัว แล้วแต่ขนาดของตู้ ปลาที่ผมอยากจะแนะนำได้แก่ ปลานกแก้ว เป็นตัวหลัก เพราะ เป็นปลาที่ไม่มีข้อเสีย เลย แถมยังข้อดีเพียบ แต่ ไม่ควรใส่จนเยอะเกินไป หรือ นำนกแก้วที่มีขนาดใหญ่กว่าปลามังกรใส่ลงไป ก็จะสามารถแก้อาการตื่นกลัวได้ หากไม่มีปัจจัยอื่นที่ทำให้ปลาตื่นกลัว เช่น เด็กชอบมาทุบกระจก หรือ ตู้ปลาอยู่ตรงทางเดินที่มีคนพลุกพล่าน เป็นต้น
ในกรณีท่านที่ไม่มีข้อจำกัดเรื่องเนื้อที่ เมื่อปลาได้ขนาด 16 –18 นิ้วแล้วจึงย้ายปลาไปอยู่ในตู้ที่ใหญ่ขึ้น จะทำให้ปลาที่ท่านเลี้ยงโตขึ้นโดยไม่สะดุด และการว่ายจะไม่มีปัญหา และปลาจะไม่เกิดความเครียด เมื่อท่านเลือกขนาดตู้ที่เหมาะสมแล้วนั้นการเลือกระบบการกรองชีวภาพ และรายละเอียดปลีกย่อยทุกอย่างล้วนมีความสำคัญทั้งสิ้น 

2. น้ำที่ใช้เลี้ยงปลา จะต้องเป็นน้ำที่ปราศจากคลอรีน บางท่านอาจจะใช้การพักน้ำให้คลอรีนระเหยบ้าง ใช้เครื่องกรองน้ำบ้าง ( ข้อควรระวัง ห้ามใช้เครื่องกรองที่มีวัสดุกรองเป็นเรซินหรือเครื่องกรองน้ำที่ใช้ดื่ม วัสดุกรองที่ใช้กรองคลอรีนจะต้องเป็นถ่านกะลาเท่านั้น หากใช้คาร์บอนชนิดอื่นอาจทำให้น้ำเป็นด่างสูงเป็นอันตรายต่อปลาได้ ) คุณภาพน้ำที่ใช้เลี้ยงปลามังกรนั้นค่อนข้างสำคัญอย่างยิ่ง ถ้าหากให้ผมแนะนำการที่จะได้มาซึ่งคุณภาพน้ำสูงสุดนั้น ควรใช้น้ำปะปาแล้วต่อเครื่องกรองคลอรีนแล้วนำน้ำไปพักให้ตกตะกอนหากน้ำที่พักทิ้งไว้เป็นเวลาหลายวันควรมีหัวทรายตีน้ำไว้เพื่อคงระดับออกซิเจนในน้ำเพื่อป้องกันน้ำเสีย จะทำให้ท่านได้น้ำที่ปราศจากคลอรีน ใสไม่มีตะกอน และมีออกซิเจนสูง อุณหภูมิน้ำในตู้บริเวณผิวน้ำควรอยู่ระหว่าง 30-34 องศาเซลเซียส น้ำที่ต้องห้ามใช้เลี้ยงปลามังกร ได้แก่ น้ำที่มีสารเคมีทุกชนิดปนอยู่ น้ำที่มีฤทธิ์เป็นด่างสูง น้ำฝน น้ำบาดาล น้ำสกปรก คือน้ำที่มีออกซิเจนละลายอยู่ในปริมาณต่ำ 

 ที่ใช้เลี้ยงปลามังกรก็มีส่วนสำคัญ ซึ่งมีผลโดยตรงกับการเจริญเติบโตของปลา รวมถึงรูปทรงและสีสันของปลา อาหารที่ใช้เลี้ยงได้แก่ แมลงเกือบทุกชนิด ลูกปลา หนอน ไส้เดือน กบ กุ้งฝอย เนื้อกุ้ง รวมทั้ง อาหารเม็ด การให้อาหารปลามังกรนั้นไม่จำกัดตายตัว ว่าจะต้องกินอย่างไร ซึ่งจะขึ้นอยู่กับ ความสะดวกของผู้เลี้ยง และอุปนิสัยการกินของปลาประกอบเข้าด้วยกัน แต่ที่ผมจะแนะนำคือ ปริมาณอาหารที่ให้ในแต่ละวันนั้นจะต้องไม่มาก หรือน้อยเกินไป โดยส่วนมากแล้วเมื่อปลาอิ่มจะไม่สนใจอาหารแล้วเชิดหน้าใส่ ยกเว้นจะเป็นของที่โปรดปรานจริงๆจึงจะฝืนกินจนพุงกางบางท่านชอบทำแบบนี้แล้วชอบใจว่าปลาของเรากินเก่ง แต่ผลเสียก็คือ ปลาของท่านจะเป็นโรคอ้วน เสียทรง ตาตก เพราะอาหารที่พวกมัน โปรดปรานส่วนใหญ่หนีไม่พ้นอาหารที่มีไขมันสูง อันได้แก่ หนอนนก หนอนยักษ์ จิ้งหรีด กบ ตะพาบ ซึ่งอาหารจำพวกนี้ควรควบคุมปริมาณที่ให้ในแต่ละวัน แต่จะงดไปเลยก็ไม่ดี เพราะจะทำให้ปลาท่านไม่โต หรือโตช้า เนื่องจากอาหารจำพวกนี้จะอุดมไปด้วยโปรตีนซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ใช้ในการเจริญเติบโต การให้อาหารที่ดีนั้น ท่านควรสับเปลี่ยนหมุนเวียนไปเรื่อยๆเพื่อสุขภาพปลาของท่านจะแข็งแรงมีภูมิต้านทานสูง เหมือนกับคนเราที่ได้รับประทานอาหารครบทั้ง หมู่ ยกตัวอย่างให้เข้าใจได้ง่ายดังนี้

เคล็ดลับการเลี้ยงปลามังกรให้โตเร็ว

ปลามังกรจัดเป็นปลาที่มีราคาแพงทั้งในประเทศแลละต่างประเทศ ซึ่งถ้าได้เกณฑ์มาตรฐานแล้วราคาอาจสูงถึงหลักล้านเลยทีเดียว ผู้เลี้ยงปลามังกรหลายท่านเชื่อว่า ถ้าเลี้ยงแล้วจะมีโชคลาภ จึงทำให้ความนิยมในการเลี้ยงปลามังกรไม่เคยตกลงเลย มีผู้เลี้ยงบางท่านยอมลงทุนอย่างมากเพื่อที่จะได้ปลาชนิดนี้มาเลี้ยงโดยไม่ต้องคอยลุ้นว่าเมื่อไหร่ปลามังกรตัวโตๆจะมีเกล็ดมันวาว แต่สำหรับบางท่านที่ต้องการเห็นตั้งแต่ตัวเล็กๆจนปลามังกรค่อยๆโตขึ้น เราก็มีเคล็ดลับง่ายๆในการเลี้ยงให้ปลามังกรโตเร็วและมีสุขภาพที่แข็งแรงด้วยวิธีง่ายๆและมีปัจจัยหลักๆดังนี้ 

1. อาหาร 
สารอาหารที่มีผลโดยตรงต่อการเจริญเติบโตของปลามังกร คือ โปรตีน และแคลเซียม สารอาหารเหล่านี้เราหาได้จาก ปลา นั่นเอง ดังนั้นการให้ลูกปลาเป็นอาหารจะให้ผลดีที่สุด แต่ก็ควรสลับกับอาหารชนิดอื่นๆบ้าง เช่น เนื้อสัตว์ อาหารชนิดนี้ควรล้างและลวกซะก่อน เพื่อเป็นการฆ่าเชื้อบางชนิด บางท่านให้กินแมลงสาบเป็นอาหาร ซึ่งวิธีนี้ควรทบทวนให้ดี เพราะแมลงสาบเป็นพาหะอย่างหนึ่งที่จะนำเชื้อโรคเข้าสู่ตัวปลา ส่วนการให้ปลากินอาหารนั้น ควรให้ในปริมาณน้อยๆแต่ให้ถี่ๆ แต่คงจะยากสำหรับคนที่ไม่มีเวลามากพอที่จะนั่งเฝ้าดูปลากินอาหารทั้งวัน ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ขอแนะนำให้ฝึกปลากินอาหารให้เป็นเวลาจะดีที่สุด 

2.อากาศ 
เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ปลาแข็งแรงสมบูรณ์ และทำให้ปลากินอาหารได้มากขึ้น ดังนั้นควรเปิดแอร์ปั๊มในตู้อยู่ตลอดเวลา 

3.น้ำ 
น้ำที่ดีที่สุดควรเป็นน้ำประปาที่ผ่านการกรองมาแล้วไม่ต่ำกว่า 24 ชม. pH ควรอยู่ที่ 6.5-6.8 ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำ 20-30% ของน้ำในตู้ทุกๆเดือน จะทำให้ปลารู้สึกสดชื่นกระตือรือร้นทันที 

4. อุณหภูมิ 
ไม่ควรปล่อยให้ต่ำเกินไป เพราะจะทำให้ปลากินอาหารได้น้อย ควรรักษาอุณหภูมิในตู้ให้คงที่ 

5.สภาพแวดล้อม 
จัดสภาพแวดล้อมให้ใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุด จะทำให้ปลาไม่ตื่นกลัว และสามารถกินอาหารได้มากขึ้น 

6.โรคภัย 
โรคปลาจะเกิดขึ้นได้ ถ้าหากผู้เลี้ยงละเลยปัจจัยทั้ง ที่กล่าวมา และการสังเกตปลาเป็นโรคเบื้องต้น ให้สังเกตการกินอาหาร และการว่ายน้ำ ถ้ามีอาการช้าลงแสดงว่าปลาเริ่มเป็นโรคแล้ว ควรหาวิธีแก้ไขให้เร็วที่สุดเพียงแค่ท่านปฏิบัติตามขั้นตอนที่กล่าวมานี้ ท่านก็จะได้เห็นปลามังกรที่โตเร็วและแข็งแรงเป็นผลตอบแทน


เปิดกรุตำนานสายพันธุ์ปลามังกร
         ปลามังกร คนไทยเรียกว่าปลาตะพัดหรือปลามังกร คนจีนเรียกว่าเล่งฮื้อ ฝรั่งเรียกว่าปลาอโรวาน่า เป็นปลาโบราณอยู่ในตระกูล "Osteoglossidae" ซึ่งเป็นตระกูลของปลาที่มีลิ้นเป็นกระดูกแข็ง Bony Tougue ได้มีการขุดค้นพบซากฟอลซิลและหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ปลาชนิดนี้พบ กระจายอยู่ใน ทวีปทั่วโลก คือ ทวีปเอเชีย ทวีปอเมริกาใต้ ทวีปอัฟริกา และทวีป ออสเตรเลีย โดยปลาที่มาจากแต่ละทวีปจะมีรูปร่างลักษณะเด่นพิเศษที่แตกต่างกัน   ทวีปเอเชีย ได้แก่ 
1.ปลาตะพัดทองมาเลย์ (Malaysia Golden Arowana) (Scleropages formosus) แหล่งกำเนิดประเทศมาเลเซียโตเต็มที่ ขนาด 80cm. การเปิดของเกล็ดจะเปิดสูง ข้ามหลังเลยก็มีให้เห็นมาก ภายในเกล็ดจะมีสีสวยเงางาม เป็นปลายอดนิยมอันดับหนึ่ง ปัจจุบันที่นิยมเลี้ยงกันมีอยู่ 2สายพันธุ์
ทองมาเลย์ฟูลโกล์ด (Full Gold) เกล็ดเงางามจะเป็นสีทองเหลืองอร่ามทั้งตัว สวยจับตาจับใจเลยทีเดียว




ทองมาเลย์บลูเบสร์ (Blue Base) เกล็ดภายในจะเป็นสีน้ำเงินเข้ม-ม่วงขอบเกล็ดจะเป็นสีทองยิ่งบางยิ่งนิยมมาก (Thin Frame Blue Base)

2.ปลาตะพัดแดงอินโด (Super Red Arowana) (Scleropages formosus) แหล่งกำเนิดประเทศอินโดนิเซียโตเต็มที่ขนาด 80cm.เป็นปลายอดนิยมอีกตัวหนึ่งของหลายๆท่านที่มีรสนิยมชอบปลาสีแดง มีหลายหลากสีให้เห็นในเกล็ดสีของปลา เช่น เกล็ดสีแดงพริกขี้หนู เกล็ดสีแดงเลือดหมู เกล็ดสีแดงน้ำเงิน-ม่วง ส่วนสีที่รองลงมาจะมี เกล็ดสีส้มและพวกสีอ่อน ปลาแดงอินโดจะมี เกรด
แดงอินโดเกรด เกล็ดสีของปลาจะมีสีเข้มเงางาม เป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่นิยมปลาแดง ราคาแพงกว่า ตัวขนาด 4” - 6” เริ่มที่ราคา        4 หมื่นบาทขึ้นไป สีที่ไม่เข้มมากราคาเริ่มที่ 2หมื่นกว่าขึ้น (นอกจากช่วงโปรโมชั่นท่านจะได้สินค้าดีราคาถูก)

3.ปลาตะพัดทองอินโด (Redtail Golden Arowana) (Scleropages formosus) แหล่งกำเนิดจากประเทศอินโดนิเซีย โตเต็มที่ขนาด 80cm.เป็นอีกสายพันธุ์ที่มีผู้นิยมเลี้ยงมาก เกล็ดสีทองหางสีแดงซึ่งเป็นที่มาของชื่อปลา Redtail Golden หรือเรียกชื่อย่อว่า RTG เกล็ดของปลาจะเปิดไม่สูงมาก การเปิดของเกล็ดจะเปิดเกล็ดที่ 4-5 หลังดำ สีภายในเกล็ดจะไม่เงางามสว่างมากเท่าทองมาเลย์ แต่ราคาก็เบากว่าหลายเท่าตัว
4.ปลาตะพัดเขียว (Green Arowana) (Scleropages formosus) แหล่งกำเนิดประเทศไทย ประเทศเขมร ประเทศมาเลเซีย โตเต็มที่ขนาด 80cm ในประเทศไทยได้พบในจังหวัดจันทบุรี สุราษธานี สตูล ปัจจุบันถ้ามีก็เหลือน้อยมาก ที่จำหน่ายในเมืองไทยปัจจุบันเป็นปลาที่นำเข้า ส่วนตัวปลาก็สวยงามไปอีกแบบ และมีราคาถูกที่สุดในสายพันธุ์ของทวีปเอเชีย


ทวีปอเมริกาใต้ ได้แก่
1. ปลาอะราไพม่า (Arapaima) (Osteoglossiformes) แหล่งกำเนิดประเทศบราซิล(ชาวบ้านเรียกว่า Pirarucu) ประเทศเปรู
(ชาวบ้านเรียกว่า Paiche) ประเทศโคลัมเบีย ส่วนในเมืองไทยรู้จักกันอีกชื่อว่า ปลาช่อนยักษ์อะเมซอน อยู่ในแม่น้ำอะเมซอนซึ่งเชื่อมติดต่อกันหลายประเทศ
ได้ชื่อว่าเป็นปลาเกล็ดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ไม่มีหนวด เมื่อโตเต็มที่มีขนาด 4.5 เมตร น้ำหนัก 400 กิโลกรัม ว่ายน้ำได้เร็ว  กระโดดเก่ง และแข็งแรงมาก รอบตัวของมันมีเกล็ดสีเขียวเหลือบขนาดใหญ่ ท้องมีสีขาว โคนหางมีเกล็ดสีแดงกระจัดกระจายอยู่ทั่ว บ้านเราส่วนใหญ่นิยมเรียกกันว่า  หางกุหลาบแดง

 2.ปลาตะพัดเงิน (Silver Arowana) (Osteoglossum bicirrhosum) แหล่งกำเนิดประเทศบราซิล ประเทศเปรู อยู่ในลุ่มแม่น้ำอเมซอน และกิอานา (Guiana) โตเต็มที่ 120 cm ตะพัดเงินเป็นปลาที่เลี้ยงง่าย ลำตัวยาวและแบนเรียวยาวไปทางส่วนหางส่วนท้องแบนเป็นสัน ลำตัวจะมีสีเงินแวววาว ที่ขอบเกล็ดจะมีสีชมพูจางทุกเกล็ด ครีบกระโดงหลังและครีบทวารจะยาวจรดกัน เป็นปลาที่สวยงามอีกชนิดหนึ่งที่มีราคาถูกที่สุด เป็นที่แพร่หลายและนิยมเลี้ยง โดยเฉพาะผู้ที่หัดเลี้ยงปลาในกลุ่มนี้มักจะได้เริ่มจากสายพันธุ์นี้เป็นส่วนมาก

3.ปลาตะพัดดำ (Black Arowana) (Osteoglossum ferreirai) แหล่งกำเนิดประเทศบราซิล บริเวณแม่น้ำริโอนิโก บรานโก โตเต็มที่ 70 cm ปลาชนิดนี้มีรูปร่างและสีสันคล้ายคลึงกับปลาตะพัดเงินมาก คือส่วนหัวมีขนาดใหญ่และส่วนท้ายเรียวเล็ก ลำตัวยาวลึกและแบนข้าง เมื่อตอนเล็กจนถึงขนาด 6  นิ้วปลาจะมีแถบลายสีดำสลับเหลืองคาดตามความยาวลำตัว แต่เมื่อปลาเริ่มโตขึ้นแถบสีดำและเหลืองจะค่อยๆ จางหายไป โดยเกล็ดจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเงิน ครีบและส่วนหางจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินคล้ำจนเกือบดำ ขอบครีบหลัง ครีบทวารและหางจะมีสีชมพูอ่อน แลดูสดใสสวยงามมาก ปลาชนิดนี้ค่อนข้างจะเปราะบางและเลี้ยงยาก มักเกิดการตายในระหว่างที่มีการลำเลียงขนส่ง ทำให้ปลาตะพัดดำมีราคาต้นทุนต่อหน่วยสูงกว่าปลาตะพัดเงิน


ทวีปอัฟริกา 1.ตะพัดอัฟริกา (African Arowana) (Heterotis Niloticus) แหล่งกำเนิดอัฟริกากลาง และ ตะวันตก อาศัยจากตอนบนของแม่น้ำไนล์ บริเวณอัฟริกาไปจนถึงฝั่งตะวันตก โตเต็มที 60 cm ลำตัวแบนและกว้าง ส่วนหัวหนาและสั้น ด้านบนโค้งเล็กน้อย ลำตัวด้านหลังและด้านข้างมีสีน้ำเงินอมดำ น้ำตาลอมเทา น้ำตาลอมแดงหรือน้ำตาลอมเขียว แล้วแต่น่านน้ำที่อยู่อาศัยของตัวปลา บริเวณท้องสีจะซีดกว่าด้านข้าง อาจจะมีสีครีมหรือน้ำตาลอมเหลืองบ้าง  ครีบสีจะคล้ายกับสีลำตัว ปากจะสั้นกลม ริมฝีปากหนา ปากมีขนาดเล็กและมีฟันเต็มปาก เป็นปลาที่ไม่มีหนวด ไม่ค่อยเป็นที่นิยมเลี้ยงกันนักในสายพันธุ์นี้

ทวีปออสเตรเลีย 1.ตะพัดออสเตรเลีย(Auatralia Arowana) มีอยู่ สายพันธุ์ ได้แก่ ตะพัดออสเตรเลียจุด และ ตะพัดออสเตรเลียไม่มีจุด
ตะพัดออสเตรเลียจุด(Scleropages Jardini) แหล่งกำเนิดรัฐควีนส์แลนด์ ที่แม่น้ำ Dawson ออสเตรเลียจุด โตเต็มที่ 70 cm      ลำตัวยาวเรียว บริเวณสันหลังตรง ลำตัวด้านหลังและด้านข้างลำตัวเป็นสีน้ำตาล หรือน้ำตาลอมเขียว หรือเหลืองอมเขียว บริเวณส่วนท้องสีจางกว่าลำตัว   จุดสีส้มอมแดงและสะท้อนแสงบนเกล็ดแต่ละเกล็ดจำนวน 1-2 จุด ครีบหลังและครีบก้นสีเหลืองอ่อน ขอบครีบทั้งสองเข้มจนเกือบดำ
ตะพัดออสเตรเลียจุด(Scleropages Jardini)

ตะพัดออสเตรเลียไม่มีจุด (Scleropages leichardti) แหล่งกำเนิดทางตอนเหนือประเทศออสเตรเลีย และ หมู่เกาะนิวกีนี   ประเทศอินโดนีเชีย ปลาชนิดนี้มีรูปร่างที่คล้ายปลาตะพัดทวีปเอเชียมากที่สุด โตเต็มที่ 70 cm ลักษณะที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัด ตะพัดออสเตรเลีย กับ ตะพัด  ทวีปเอเชีย คือจำนวนแถวของเกล็ดมีมากแถวกว่า ตะพัดออสเตรเลียจะมีเกล็ด แถว ในขณะที่ตะพัดทวีปเอเชีย มี เพียง แถว ส่งผลให้ขนาดของเกล็ดปลาจะมีขนาดเล็กลง ขอบเกล็ดของปลาอะโรวาน่าชนิดนี้ จะออกสีส้ม เหลือบเขียว เป็นรูปเสี้ยวพระจันทร์ 





วันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ฝึกหัดบทที่2

แบบฝึกหัด

1.ให้นิสิตหารายชื่อเว็บไซต์หรือเทคโนโลยีที่ให้บริการต่างๆตามหัวข้อเหล่านี้มาอย่างละ 3 รายการ
1.การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในสาขาการศึกษา
http://www.arsomsilp.ac.th/library/Link-Education.html
http://www.lib.ru.ac.th/webtoday/index1.html
http://blog.eduzones.com/sasitorn25/32095
2.การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพธุรกิจ พาณิชย์ และสำนักงาน
http://www.dbd.go.th/mainsite/index.php?id=25306
http://nimwinoktan.blogspot.com/2011/01/blog-post_25.html
http://bsq2.vec.go.th/course/course.html
3.การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพการสื่อสาร
http://www.infocomm.mju.ac.th/icnew/iclearn/
https://sites.google.com/site/prapasara/p2-5
http://www.infocomm.mju.ac.th/icnew/icweb/
4.การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพทางอุตสาหกรรม
http://www.thaiind.com/links/links-industry.php
http://www.cabinet.thaigov.go.th/webdirect.htm
http://www.trueplookpanya.com/true/guidance_after_m3.php?cms_category_id=114
5.การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพทางการแพทย์
http://www.applythaimed.org/fusion702/articles.php?article_id=4
http://blog.eduzones.com/02981dream/webboard_view.php?question_id=8202
http://www.tmc.or.th/
6.การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพทางทหารตำรวจ
http://www.agoda.co.th/asia/thailand/bangkok/twin_towers_hotel.html?type=1&site_id=1410012&url=http://www.agoda.co.th/asia/thailand/bangkok/twin_towers_hotel.html&tag=ea952774-d21f-4f0a-ae18-76ff048037d2&gclid=CM__l_TC4LUCFQQb6wodJhIA0g&cklg=1
http://www.dek-d.com/content/admissions/27006/
http://sobrajakan.com/
7.การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพวิศวกรรม
http://www.ceat.or.th/2010/index.php
http://www.coe.or.th/e_engineers/ethics.php
http://www.vcharkarn.com/vcafe/149916
8.การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพด้านเกษตรกรรม
http://nfesamkhok.igetweb.com/index.php?mo=3&art=41984333
http://centernongprue.lefora.com/2011/06/16/20110616074726/
http://blog.eduzones.com/nuihappy/105
9.การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับคนพิการต่างๆ
http://www.mict.go.th/ewt_news.php?nid=4853&filename=index
http://www.tddf.or.th/about/?contentid=0059
http://www.thaihealth.or.th/healthcontent/situations/26806
2.มหาวิทยาลัยมหาสารคามเตรียมเทคโนโลยีสารสนเทศด้านการศึกษาให้กับท่าน มีอะไรบ้าง บอกมาอย่างน้อย 3 อย่าง
- การลิงค์ เชื่อมต่อ ระหว่างคอมพิวเตอร์ในการศึกษา
- เว็บมหาวิทยาลัย
- การฉายโปรเจ็กเตอร์
3.จากข้อ2 จงวิเคราะห์ว่าท่านเอาเทคโนโลยีเหล่านั้น มาทำให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองอย่างไรบ้าง
- เว็บไซต์ต่างๆทำให้เราสร้างเว็บเป็นของตัวเองเป็น ได้รู้ว่าจัดวางรู้แบบต่างๆได้เหมาะสม เป็นตัวอย่างที่ให้เราสามารถทำได้